Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) เป็นหนังแอ็คชั่นดราม่าอเมริกัน – ออสเตรเลียปี 2022 กำกับโดย แมทธิว ไรลีย์ จากบทภาพยนตร์ที่เขาร่วมเขียนบทกับสจ๊วต บีตตี้ นำแสดงโดย Elsa Pataky และ Luke Bracey เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายที่ต้องการเปิดการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ในสหรัฐอเมริกาด้วยขีปนาวุธที่ถูกขโมยมา Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) มีกำหนดฉายในไทย 3 มิถุนายน 2022 ที่ Netflix เท่านั้นมีพากษ์ไทยให้ด้วย ติดตามได้ใน readdoo
เรื่องย่อของ Interceptor (สงครามขีปนาวุธ)
Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) เปิดเรื่องมาที่ผู้กองสาวสวยอย่าง เจเจ คอลลินส์ รับบทโดย เอลซา พาทากีทหารหญิงที่ต้องมาเผชิญหน้ากับภัยก่อการร้ายคุกคามอเมริกาจากอาวุธมิสไซล์ที่หมายจะยิงถล่ม 16 เมืองหลัก โดยเธอเพิ่งจะกลับมาประจำการที่ฐานยิงสกัดกั้นขีปนาวุธกลางมหาสมุทรแปซิฟิกได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้พบกับ อเล็กซานเดอร์ เคสเซล อดีตทหารสหรัฐฯ ที่แปรพักตร์และเข้าข้างฝ่ายศัตรู เธอต้องฝ่าฝันอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้ากับปมอดีตที่ยังฝังใจ โดยมีประชากร 300 ล้านคน ตกเป็นเป้าหมายและเดิมพันในสงครามครั้งนี้
สำหรับ Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) คือหนังแอ็คชั่นสไตล์เดิม ๆ เหมือนกับหนังเมื่อ 20 ปีก่อน ทิศทางเรื่องเดาไม่ยาก องค์ประกอบอะไรต่าง ๆ ง่ายไปหมด ก็กลายเป็นหนังที่ดูแล้วย่อยง่าย เป็นหนังที่มาเพื่อเชิดชูความแข็งแกร่งของผู้หญิง เป็นหนังบู๊สาวกล้าที่ทั้งโอเว่อร์และเก่งเกินจริง แต่ก็สามารถมอบอรรถรสที่ดูได้สนุกและเพลิดเพลินได้ดีแบบไม่ต้องคิดอะไร
รีวิวเนื้อเรื่องของ Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) ที่ไม่ซับซ้อน
เมื่อชื่อเรื่อง Interceptor มีความหมายว่า การสกัดกั้นขีปนาวุธ แน่นอนว่าหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ก็ต้องโฟกัสประเด็นนี้ เนื้อเรื่องโดยรวมไม่ซับซ้อน เข้าใจง่ายเป็นเรื่องแต่งที่อาจใกล้เคียงเรื่องจริง สำหรับผู้กองเจเจ ถึงเป็นแนวก่อการร้าย มีเลือดสาดบ้าง แต่ไม่หดหู่ ทั้งหมดทั้งมวลนอกจากการแสดงบู๊แล้ว ยังมีความยาวของหนังเพียงแค่ 1ชั่วโมง 38 นาที เท่านั้น บอกเลยว่าไม่น่าเบื่อเลย โดยมีจุดเด่นของ เอลซ่า พาทากี ที่มีฟิตหุ่นมาล่ำบึ้กมากสมกับเป็นนางเอกนักบู๊ หนังเลือกแง่มุมแปลกใหม่มาเล่ากับฐานปฏิบัติการยิงสกัดขีปนาวุธที่หนังฮอลลีวูด ยังไม่เคยหยิบมาเล่าเรื่อง
Interceptor (สงครามขีปนาวุธ) มีจุดควรสังเกตคือ ตัวละครทั้งฝั่งร้ายและฝั่งดี แบนราบไม่มีเหตุผลรองรับในการปฏิบัติการภารกิจที่ดูหนักแน่น น่าคล้อยตาม หนังอยู่ในมือผู้กำกับผลงานหนังเรื่องแรกของผู้กำกับ แมทธิว ไรย์ลีย์ ที่เขายังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังด้วย บอกตรง ๆ งานกำกับของเขาก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์อะไรเลยเป็นหนังแอ็คชั่นที่มีลักษณะเป็นหนังเกรดรอง สำหรับโปรดักชั่นก็พื้นฐานและไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ขณะที่พล็อตเรื่องก็เชยแสนเชย ยังโยงใยประเด็นรัสเซียกับอเมริกาตีกันแบบแนวคิดเดิม ๆ
ขอขอบคุณ ล็อตโต้สด
