
ภาพยนตร์ที่เป็นมากกว่าวันคริสต์มาส: Klaus
Klaus เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาส ซึ่งถ้าพูดถึงวันคริสต์มาส เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึง ซานตาคลอส ต้นคริสต์มาส ของขวัญ หรือแม้แต่กระทั่งกวางเรนเดียร์ ตำนานวันคริสต์มาสถูกนำมาเล่าขานในรูปแบบต่าง ๆ แตกต่างกันตามความเชื่อและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ ในเรื่อง Klaus เองก็จะพูดถึงตำนานคริสต์มาสในรูปแบบหนึ่ง
Klaus | Official Trailer | Netflix

https://movietriviath.wordpress.com/2020/02/22/review-klaus-2019/
ทำไม Klaus ถึงมีมากกว่าวันคริสต์มาส
สำหรับภาพยนตร์ Klaus เรื่องนี้จะพูดถึงตำนานของวันคริสต์มาสและซานตาคลอสผ่านตัวละครเจสเปอร์ที่เป็นบุรุษไปรษณีย์ ผู้ที่มีชีวิตที่แสนสบายแต่ต้องถูกส่งมายังเมืองสเมียร์เรนสเบิร์ก เมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของการแก้แค้นกันอย่างยาวนานระหว่างสองตระกูลนั่นคือตระกูลครัมและตระกูลเอลลิงโบ ความสนุกมันอยู่ที่ตำนานของวันคริสต์มาสอย่างซานตาคลอส บุรุษไปรษณีย์ ช่างไม้ เมืองที่แสนจะวุ่นวายอย่างเมืองสเมียร์เรนสเบิร์กนั้นจะเกี่ยวข้องกันอย่างไร ภาพยนตร์เรื่องนี้ภาพสวย สีสันสดใน ดนตรีประกอบที่มีความไพเราะ สามารถดูพร้อมกันทั้งครอบครัวเหมาะกับทุกเพศทุกวัย การันตีความสนุกจากการเข้าชิงรางวัลออสก้า สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยม เรารับรองว่าเวลาหนึ่งชั่วโมงกับสามสิบแปดนาทีของคุณจะเต็มอิ่มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และแง่คิดในการใช้ชีวิต

สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับหนังแนวคริสต์มาสเรื่อง Klaus แอนิเมชั่นเรื่องนี้เรายกให้เป็นแอนนิเมชั่นแห่งความสุข ในเวลาหนึ่งชั่วโมงกับสามสิบแปดวินาทีนั้นมีความหมาย หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ทำแค่ให้สนุกเพื่อให้เด็กดูทั่ว ๆ ไป แต่หนังยังแฝงไปด้วยแนวคิดที่สามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ผู้ใหญ่อย่างเราก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ สิ่งที่เล่าผ่านหนังเรื่องนี้แทบจะไม่มีเวทมนต์ พลังวิเศษอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ทุกคนล้วนธรรมดาที่สามารถสร้างสิ่งที่พิเศษได้
สิ่งที่เราประทับใจเกี่ยวกับหนังแนวคริสต์มาสเรื่องนี้คือ เราเป็นคนนึงที่สงสัยว่าการที่เราจะเปลียนแปลงสิ่งที่ยาก สิ่งที่มีสิ่งที่เป็นอยู่นั้น เราสามารถเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้หรือไม่ เราต้องลงทุนหรือต้องใช้เวลามากแค่ไหนกับการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ หนังเรื่อง Klaus ทำให้เราเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำได้ และถ้าเราทำมันได้ดี คนอื่น ๆ ก็จะทำตาม เมื่อมีคนทำตามมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน เราชอบตำนานของวันคริสต์มาสอย่างซานตาคลอสเวอร์ชั่นนี้มาก เรารู้สึกถึงความแตกต่าง ความธรรมดาที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อ เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้วิเศษเราก็สามารถเป็นซานตาคลอสในแบบของเราได้ พลังวิเศษอาจจะมาจากความสามารถพิเศษที่เราคาดไม่ถึง ลองพยายามใช้เวลาค้นหาตัวเอง ลองทำในสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ เราอาจจะถนัดในสิ่งที่ไม่ชอบ แต่เราไม่ทำเพียงเพราะคนอื่นบอกว่าเราทำไม่ได้ อย่าให้ใครมาบอกหรือตัดสินว่าเราทำสิ่งนั้นไม่ได้ เชื่อมั่นในตัวเองให้มาก ๆ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวเราอีกแล้ว การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่อาจมาจากการกระทำที่เล็ก ๆ Klaus อ่านบทความที่น่าสนใจ readdoo